อะไรคือสาเหตุที่อาจทำให้เครื่องบินแอร์อินเดียตก หลังขึ้นบินได้เพียง 30 วินาที
โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน AI171 ของสายการบินแอร์อินเดีย ซึ่งมุ่งหน้าจากเมืองอาห์เมดาบัดของอินเดียไปยังสนามบินแกตวิกในลอนดอน ได้กลายเป็นประเด็นเขย่าวงการการบินโลก หลังจากที่เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ตกกระแทกอาคารย่านที่พักอาศัยทันทีหลังขึ้นบินเพียง 30 วินาที คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 241 คน รวมถึงผู้คนอีกจำนวนหนึ่งบนพื้นดินเหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2011
จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม
เที่ยวบิน AI171 ออกตัวจากสนามบินนานาชาติซาร์ดาร์ วัลลับภาย ปาเทล เมื่อเวลา 13:39 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะบรรทุกผู้โดยสาร 242 คน พร้อมเชื้อเพลิงเกือบเต็มถัง น้ำหนักรวมของเครื่องถือว่าหนักมากสำหรับเที่ยวบินระยะไกลเช่นนี้ โดยมีนักบินที่มากด้วยประสบการณ์เป็นผู้ควบคุม คือกัปตันสุมีต สภาร์วัล และนักบินผู้ช่วยไคลฟ์ คุนดาร์ ซึ่งมีชั่วโมงบินรวมกันกว่า 9,000 ชั่วโมง
ไม่กี่วินาทีหลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นจากรันเวย์ ห้องนักบินส่งสัญญาณฉุกเฉิน “เมย์เดย์” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา และเพียงครึ่งนาทีต่อมา เครื่องบินได้พุ่งตกลงมากระแทกอาคารอย่างรุนแรงกลางเมืองอาห์เมดาบัด จนเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
อะไรคือสาเหตุที่เป็นไปได้?
แม้ต้องรอผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการจากทีมสอบสวนของอินเดีย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินและนักบินจำนวนหนึ่งก็ได้เสนอข้อสันนิษฐานเบื้องต้นถึงสาเหตุที่อาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งมีอยู่หลายประเด็นสำคัญ ดังนี้:
- เครื่องยนต์ขัดข้องพร้อมกันทั้งสองเครื่อง (Dual Engine Failure)
หนึ่งในข้อสงสัยหลักคือการที่เครื่องยนต์อาจดับทั้งสองฝั่งพร้อมกัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากอย่างยิ่งในโลกการบินพาณิชย์ นักบินรายหนึ่งกล่าวกับบีบีซีว่า “หากเครื่องยนต์ดับทั้งสองเครื่องในระหว่างไต่ระดับขึ้นบิน นักบินแทบไม่มีเวลาตอบสนองเลย”
แม้เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็เคยมีกรณีที่คล้ายกันเกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ “ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน” ในปี 2009 ซึ่งเครื่องบิน US Airways ต้องลงจอดฉุกเฉินหลังสูญเสียเครื่องยนต์จากการชนนก
สำหรับกรณีเที่ยวบิน AI171 มีข้อสันนิษฐานว่าอาจมีการปนเปื้อนในเชื้อเพลิง หรือระบบวัดเชื้อเพลิงอุดตัน ซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์ขาดพลังงานและดับพร้อมกันได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่ยืนยันเรื่องนี้ - การชนนก (Bird Strike)
สนามบินในเมืองอาห์เมดาบัดถูกระบุว่า “ขึ้นชื่อเรื่องอุบัติเหตุจากฝูงนก” โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีรายงานเหตุการณ์เครื่องบินชนนกถึง 462 ครั้งในรัฐคุชราต โดยมากเกิดที่สนามบินแห่งนี้
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า หากเครื่องบินชนฝูงนกหลังขึ้นบิน และนกถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ทั้งสองฝั่ง ก็อาจส่งผลให้เครื่องยนต์หยุดทำงานเหมือนกับเหตุการณ์ในนิวยอร์กปี 2009
แต่ถึงกระนั้น นักบินอาวุโสคนหนึ่งก็ให้ความเห็นว่า “การชนนกไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เว้นเสียแต่มันจะกระทบเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องพร้อมกัน ซึ่งพบได้ยากมาก” - ปีกสร้างแรงยก (Flap) ไม่ทำงาน
มีความเป็นไปได้อีกข้อหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกต คือปีกสร้างแรงยกของเครื่องบิน (flaps) อาจไม่ยื่นออกหรือทำงานผิดปกติในช่วงทะยานขึ้นบิน
ส่วนประกอบนี้มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มแรงยกของเครื่องบินขณะบินด้วยความเร็วต่ำ หากขัดข้อง หรือไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างที่เมืองอาห์เมดาบัด (อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส) จะทำให้เครื่องบินที่หนักจากการบรรทุกผู้โดยสารและเชื้อเพลิง ไต่ระดับได้ยาก
แม้ระบบของเครื่องบิน Boeing 787 จะมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติหากปีกสร้างแรงยกไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง แต่ก็ไม่อาจตัดข้อผิดพลาดของมนุษย์ในขั้นตอนก่อนบินได้
การสืบสวนยังดำเนินต่อ
บีบีซีแวริฟายตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุด พบว่า เครื่องบินลำนี้ไต่ระดับขึ้นไปได้เพียง 190 เมตร ก่อนเริ่มลดระดับลงและตกกระแทกกับอาคารที่พักอาศัย โรงพยาบาล และพื้นที่ราชการหลายแห่ง โดยภาพดังกล่าวยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนถึงสาเหตุที่แน่ชัดจีอี แอโรสเปซ (GE Aerospace) ผู้ผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบินรุ่นนี้ ได้ส่งทีมสนับสนุนไปยังอินเดีย เช่นเดียวกับบริษัทโบอิ้งที่ประกาศให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวน
บทสรุปเบื้องต้นอาจทำให้เครื่องบินแอร์อินเดียตก
อุบัติเหตุที่น่าสลดใจของเที่ยวบิน AI171 แสดงให้เห็นว่าแม้เครื่องบินสมัยใหม่จะมีระบบความปลอดภัยสูงเพียงใด ก็ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค สภาพแวดล้อม หรือแม้แต่ความประมาทของมนุษย์
คำตอบสุดท้ายเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ยังต้องรอผลจากการตรวจสอบกล่องดำและซากเครื่องบินอย่างละเอียดโดยทีมสอบสวนจากหลายประเทศ ซึ่งทั่วโลกต่างจับตามองด้วยความห่วงใยและหวังว่าจะสามารถป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต
credit : https://www.bbc.com/thai/articles/cwywvyn0y9go